“โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568” ริเริ่มโดยการรวมพลังของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยศิริราชมูลนิธิ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมูลนิธิรามาธิบดีฯ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการความรู้ ความสามารถ และทรัพยากร ของทั้งสามมูลนิธิและโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และเผยแพร่พระราชกรณียกิจที่ทรงอุทิศพระองค์ในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การแพทย์ และการสาธารณสุข ซึ่งทรงเน้นความสำคัญของการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เหมาะสม สำหรับประชาชนผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งยังเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานกรรมการศิริราชมูลนิธิ ทรงรับมูลนิธิรามาธิบดีไว้ในพระราชูปถัมภ์ และทรงดำรงตำแหน่งอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย

เมื่อวันที่ 10 – 12 กรกฎาคม 2568 “ศิริราช–รามา–จุฬาฯ”  ได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปออกหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ ณ โรงพยาบาลอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เพื่อให้บริการแก่ประชาชนใน ใน 5 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท และนครสวรรค์ ตามรายละเอียดดังนี้ ผ่าตัดต้อกระจก วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 70 ดวงตา ส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร ระหว่างวันที่ 12–13 กรกฎาคม 2568 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 200 ราย ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ระหว่างวันที่ 26–28 กรกฎาคม 2568 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 65 ราย รวม 73 ข้อเข่า

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีทีมแพทย์และบุคลากรการแพทย์อาสาออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่ห่างไกลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยเริ่มต้นที่โรงพยาบาลปักธงชัย นครราชสีมา ภายใต้หลักการ “นำบริการที่มีคุณภาพจากโรงเรียนแพทย์ไปสู่ประชาชน”

จากจุดเริ่มต้นด้วยทีมจักษุแพทย์อาสา โครงการได้ขยายความร่วมมือไปสู่การรวมพลังของบุคลากรทางการแพทย์หลากหลายสาขา เช่น ทันตแพทย์ พยาบาล ตลอดจนประชาชนจิตอาสา เพื่อให้บริการทางการแพทย์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แก่ประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น นครราชสีมา แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และชลบุรี

นอกจากในประเทศไทย ยังขยายความร่วมมือไปสู่ระดับนานาชาติ โดยร่วมมือกับ Dr. Sanduk Ruit ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ. 2550 และสถาบัน Tilganga แห่งประเทศเนปาล ในการจัดหน่วยผ่าตัดต้อกระจกและให้บริการทางทันตกรรมแก่ประชาชนชาวเนปาลผู้ยากไร้หลายครั้งด้วยกัน

จนถึงปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ดำเนินการออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกแล้วกว่า 70 ครั้ง และช่วยคืนแสงสว่างให้กับประชาชนไปแล้วมากกว่า 16,410 ดวงตา

โรคต้อกระจก โรคที่รักษาให้หายได้ หากเข้าถึงการรักษา ต้อกระจกเป็นโรคที่เลนส์ตาขุ่นมัว ส่งผลให้การมองเห็นลดลง และหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ตาบอดถาวร อย่างไรก็ตาม ต้อกระจกสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตา ซึ่งเป็นหัตถการที่ได้ผลดี มีความปลอดภัยสูง และสามารถคืนคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน ในผู้ป่วยยากไร้ซึ่งเข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุข การผ่าตัดต้อกระจกไม่เพียงช่วยให้กลับมามองเห็นได้ แต่ยังช่วยให้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ พึ่งพาตนเองได้ ลดภาระของครอบครัว

การดำเนินโครงการออกหน่วยแพทย์อาสาแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์การแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ ค่าเดินทาง ตลอดจนการสนับสนุนทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มกำลัง

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้...แสงสว่างในการมองเห็นกับผู้คนทั่วประเทศ เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงผู้ป่วยที่ยังรอความช่วยเหลือในพื้นที่ห่างไกล และร่วมกันสร้างโอกาสในการมองเห็นอีกครั้งให้กับพวกเขา

เพราะการ “ให้” ไม่สิ้นสุดที่เพียงแค่การรักษา
แต่หมายถึงการเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของใครบางคน