มูลนิธิรามาธิบดี | เสียงจากใจผู้รับ

"ดวงใจของแม่"

 

"ก่อนที่ลูกจะเข้าห้องผ่าตัดปลูกถ่ายตับ ฉันบอกกับหมอว่า ไม่มีอะไรจะเสียไปกว่านี้
หมอคิดว่าอะไรดีที่สุด หมอรักษาลูกฉันได้เลยค่ะ”

 

             เรื่องจริงจากคำบอกเล่าของคุณแม่หัวใจแกร่งอย่างคุณมยุรี ที่ครั้งหนึ่งชีวิตเคยเฉียดเข้าใกล้คำว่าสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก ... คุณมยุรีเล่าให้ฟังว่าน้องอริสาตัวเหลืองตั้งแต่แรกเกิด พออายุ 6 เดือน

แพทย์ตรวจพบว่าน้องมีภาวะตับแข็ง ติดเชื้อในทางเดินอาหาร ปอดอักเสบ อีกทั้งยังถ่ายเป็นเลือด ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งนานถึง 2 เดือน  แต่อาการโดยรวมยังคงไม่ดีขึ้น

จึงถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พร้อมกับที่คุณมยุรี ต้องลาออกจากงานประจำ มารับหน้าที่ดูแลลูกตลอด 24 ชั่วโมง

 

           แพทย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีตรวจพบว่า น้องอริสาตับแข็ง ต้องรักษาด้วยการปลูกถ่ายตับอย่างเร่งด่วน ข่าวดีที่สุดของคุณมยุรีในตอนนั้นคงเป็นเรื่องที่คนเป็นแม่อย่างเธอ

สามารถเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่กับลูกของเธอได้ เพราะโรงพยาบาลรามาธิบดีมีศูนย์ปลูกถ่ายตับ ที่ใช้ตับจากพ่อหรือแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ นับเป็นวิทยาการทางการแพทย์ชั้นสูง

ที่เพิ่มโอกาสในการรักษาผู้ป่วยให้มีโอกาสรอดชีวิตมากยิ่งขึ้น  แต่ข่าวร้ายก็ตามมาโดยที่คุณมยุรียังไม่ทันจะตั้งตัว เมื่อผลตรวจเลือดของเธอและลูกไม่ตรงกัน

แผนที่เธอจะบริจาคตับบางส่วนให้กับลูก พังทลายไปในชั่วพริบตา ใช่ว่าปัญหาทุกอย่างจะไม่มีทางออก เมื่อแพทย์แจ้งให้เธอทราบว่า สามารถใช้ตับจากผู้บริจาคที่เป็นญาติได้

ซึ่งในบรรดาญาติ ก็พอจะหาคนที่มีหมู่โลหิตเดียวกับน้องอริสาได้อยู่บ้าง แม้จะต้องเปลี่ยนผู้บริจาคตับถึง 3 คน และรอการปลูกถ่ายตับนานถึง 9 เดือน แต่ที่สุดน้องอริสาได้ตับบริจาคจากน้าสาว

และเข้ารับการปลูกถ่ายตับในช่วงเดือน พ.ย. 2559  ภาพจำตอนส่งลูกน้อยต้องเข้าห้องผ่าตัดยังคงติดตาและบีบหัวใจ แต่คุณมยุรีก็เชื่อใจทีมแพทย์รามาฯ และคอยภาวนาให้ลูกปลอดภัยอยู่ทุกเสี้ยววินาที

 

       ทุกวันนี้ คุณมยุรีได้ลูกน้อยกลับคืนมาในอ้อมกอดอีกครั้ง ไม่ใช่แค่แม่อย่างเธอที่คอยดูแลลูกอย่างเต็มที่ แต่เธอบอกว่า “รอยยิ้มเล็ก ๆ ทุกวันจากลูกน้อย”  ก็เป็นพลังที่เปลี่ยนชีวิตมืดมน ให้กลับมาสดใสและพร้อมเดินหน้าต่อไป

 

เราใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และการใช้งานของเว็บไซต์ อ่านเพิ่มเติม