มูลนิธิรามาธิบดี | เสียงจากใจผู้รับ

รักของแม่ รักแท้...ไม่สิ้นสุด

นัทธิตา คชดี  หรือ คุณหนึ่ง หลายคนเรียกเธอว่า “คุณแม่สู้ชีวิต” ด้วยเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องเลี้ยง ด.ญ. นุชวรา หรือ น้องออย วัย 6 ปี  ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อีกทั้งยังมีโรคอื่น ๆ รุมเร้าอีกเกือบ 10 โรค แม้คุณหนึ่งจะเดินด้วยท่าทางที่ไม่ได้กระฉับกระเฉงนัก เพราะเท้าผิดรูปตั้งแต่เกิด แต่ในวันที่ต้องพาลูกเข้ามารักษาตัวในกรุงเทพฯ สองแขนของเธอยังคงแข็งแรงพอ ที่จะอุ้มประคองลูกน้อยพร้อมสัมภาระหนักอึ้ง เดินทางจากบ้านเกิดที่จังหวัดตราดโดยรถโดยสารถึง 3 ต่อ ใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ระยะทางรวมเกือบ 400 กิโลเมตร เพราะเธอรู้ดีว่าโรงพยาบาลรามาธิบดี คือ ปลายทางที่จะให้ชีวิตใหม่ของเธอและลูกได้


“ ตั้งแต่น้องออยเกิด หนูก็รู้เลยว่าลูกเราผิดปกติ  น้องหอบง่าย ตัวซีดเขียวอยู่บ่อย ๆ เพราะเป็น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว  ช่วงแรกรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก  จนอายุได้ 6 เดือน หมอบอกว่าต้องส่งตัวไปผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลรามาฯ ทันทีที่หนูได้ยินคำนั้นจากปากหมอ หนูน้ำตาคลอ แทบล้มทั้งยืน ไม่คิดว่าลูกจะเป็นโรคร้ายแรงขนาดนี้ วันแรกที่ได้เจอหมอที่รามาฯ หมอบอกว่า “พรุ่งนี้ต้องผ่าตัดเลยนะ” หนูพูดตามตรงว่าหนูยังทำใจไม่ได้ ตัดสินใจนั่งเฝ้าลูกอยู่หน้าห้องผ่าตัด นานกว่า 7 ชั่วโมง  ตอนที่หมอเดินจากห้องผ่าตัดออกมาบอกว่าน้องออยปลอดภัย นั่นคือข่าวดีที่สุดในชีวิตเลยค่ะ

พอน้องอายุได้ขวบครึ่ง โรคหัวใจก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง น้องออยเส้นเลือดหัวใจตีบ มีรูรั่ว ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 แม้หนูจะคุ้นเคยกับห้องผ่าตัดมาบ้างแล้ว แต่ในทุกครั้งที่ต้องส่งลูกเขาห้องผ่าตัด หนูก็อดคิดไม่ได้ว่า จะเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายไหม แต่ใจก็เชื่ออยู่เสมอว่า “หมอที่รามาจะช่วยลูกหนูได้” หลังการผ่าตัดครั้งนี้ น้องออยอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชีวิตหนูกับลูกก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง... 

แต่เชื่อไหมคะ? หลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตเราสองคนกลับทุกข์ลงกว่าเดิม เพราะร่างกายของน้องออย เริ่มมีความผิดปกติมากขึ้น ยิ่งหมอตรวจ ก็ยิ่งทำให้พบโรคร้าย ไม่ว่าจะเป็นอาการชัก ขาลีบผิดรูป  พัฒนาการช้า ตาเป็นต้อ ประสาทหูเสื่อม น้ำคั่งในหู และเส้นเลือดในสมองตีบ หนูต้องพาลูกมาหาหมอที่รามาฯ บ่อยขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ละครั้งต้องนอนค้างคืนเกือบครึ่งสัปดาห์ อาศัยพื้นที่เปิดโล่งด้านหลังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเป็นที่กางมุ้งนอน เพราะไม่มีเงินมากพอจะไปเช่าหอพักหรือโรงแรมอยู่ ก่อนหน้านี้หนูไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะเจอปัญหารอบด้าน  สิ่งที่ทำให้หนูกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง คือ “ลูก”  แม้น้องออยจะพูดหรือช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้  แต่ทุกครั้งที่เห็นดวงตาบริสุทธิ์ที่มองมาและยิ้มให้หนู นั่นคือพลังใจที่ดีที่สุดของหนูในทุก ๆ วัน อีกทั้งยังได้กำลังใจจากแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรามาธิบดี ตลอดระยะเวลาของการรักษาอยู่ที่นี่ และมูลนิธิรามาธิบดีฯ ที่ช่วยเหลือค่าใช่จ่ายส่วนเกินค่ารักษาพยาบาล ผ่านงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่ะ ”


ตลอดระยะเวลาการรักษาเกือบ 7 ปีมานี้ น้องออยอาการดีขึ้นมาเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสียสละของคนเป็นแม่อย่างคุณหนึ่ง เพราะต้องดูแลน้องออยเกือบตลอดเวลา ไม่สามารถทำอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่งได้ เธอยอมรับว่ามีบ้างที่เหน็ดเหนื่อย แต่ไม่เคยท้อ คงเป็นเพราะ “อาชีพแม่” ที่อยู่ในสายเลือด อาชีพที่พร้อมจะดูแลลูกน้อย ไปพร้อมกับทุกลมหายใจของเธอ

 

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และการใช้งานของเว็บไซต์ อ่านเพิ่มเติม